น้ำเกลืออันโด่งดัง เขาว่าเช็ดหน้าแล้วจะไม่เป็นสิว!!!
อ่านะ ก็ว่ากันไป มาพูดถึงน้ำเกลือนี่กันก่อน
น้ำเกลือที่ว่าเนี่ย ต้องเป็นน้ำเกลือที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้วเท่านั้นนะคะ
ไม่ใ่ช่น้ำเกลือที่ได้จากการเอาเกลือแกงละลายน้ำ!
เพราะน้ำเกลือนี้เขาใช้ล้างแผลค่ะ ส่วนยี่ห้อที่มารีวิวนี่
เป็นยี่ห้อที่ผู้เขียนใช้อยู่จริงๆ ซึ่ก็เหมือนกับที่คนส่วนใหญ่เขาก็ใช้ตามๆ กัน
แต่จริงๆ แล้วก็มีอยู่หลายยี่ห้อ ซึ่งที่เลือกใช้ยี่ห้อนี้เพราะว่าใช้มาตั้งแต่แรก
แล้วไม่แพ้เลยใช้มาตลอด
มีขายอยู่ 3 ขนาด : 100,500,1000 ml (ในรูปเป็น 100 ml)
ราคาก็ตั้งแต่ 25-55 แล้วแต่ขนาดและร้านที่ซื้อ
วิธีใช้คือ เช็ดหน้าหลังล้างหน้าเช้าเย็น ง่ายป่ะ !! อิๆ
แต่แนะนำว่า !!!! ควรซื้อขวดเล็กมาใช้จะดีที่สุด
เพราะผู้เขียนเคยใช้มาแล้วทุกแบบ พบว่าการที่จะใช้ให้ทัน
หมดอายุใน 30 วันนั้น แค่ขวดเล็กใช้กัน 4 คน เช้า-เย็น
ขอบอกว่ายังไม่หมดเลยค่ะ 30 วันเนี่ย
อีกอย่างขวดเล็กก็พกง่าย ใช้สะดวกด้วย ขวดใหญ่ยกลำบาก
ใช้ตอนเปิดขวดใหม่ๆ หนักมากกกก รูที่ขวดแทบจะทิ่มสำลี
จะทำให้ไม่ปลอดเชื้อเอานะคะ
....................................................
ส่วนคำถามที่ว่า "ใช้แล้วสิวหายจริงป่ะ?"
คำตอบคือ "จริงส่วนหนึ่ง" เพราะเชื้อจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดสิวยังอยู่
ในรูขุมขนซึ่งน้ำเกลือไม่มีอานุภาพขนาดนั้น เป็นเพียงการทำ
ความสะอาดภายนอก ข้อนี้ให้คะแนน 6/10
แต่ยังมีอีกประเด็นหนึ่งที่ผุ้เขียนชอบนอกจากราคาที่ถูกแสนถูกแล้ว
คือ ช่วยลดอาการระคายเคืองจากการใช้น้ำที่เราไม่คุ้นเคยล้างหน้า
เ่ช่น การไปเที่ยวต่างจังหวัีด ผู้เขียนไม่จำเป็นต้องใช้น้ำดื่มล้างหน้า
แค่ใช้น้ำเกลือนี่เช็ดหลังล้างหน้า แค่นี้ก็สบายใจแล้วว่าจะไม่เป็นสิวอย่างแน่นอน
ข้อนี้ให้คะแนน 10/10 เลย
เคยมี Review และคำถามมากมายเกี่ยวกับการใช้น้ำเกลือเช็ดหน้าในเว็บไซต์ต่างๆ
จึงขอแนะนำกระทู้หนึ่งในเว็บพันธ์ทิพย์ ซึ่งคิดว่าค่อนข้างครอบคลุม และมีรายละเอียดชัดเจน
แล้วยังมีความคิดเห็นหลากหลายจากผู้ใช้ท่านอื่นด้วยค่ะ
v
v
.....................................................
ปล. สภาพผิวของผู้เขียนเป็นผิวมัน เป็นสิวประปราย ไม่่เคยแพ้
เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ใดๆ ที่ใช้กับหนังหน้า ดังนั้นผลิตภัณฑ์
แต่ละชนิดที่เพื่อนๆ ได้อ่านในรีวิวของผู้เขียน หรือได้อ่านจากที่อื่น
ขอให้ทดสอบการแพ้กับผิวของตัวเองก่อน ด้วยการทาไว้ที่บริเวณผิวหนัง
ที่บอบบาง เช่น หลังหู หรือท้องแขน เสียก่อนนะคะ
read more