วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

8 ขั้นตอนทำความสะอาดใบหน้า - สิ่งสำคัญที่สุดของใบหน้าคุณ

สิ่งสำคัญที่สุดของใบหน้าคุณ คือการมีใบหน้าที่สดใส ปราศจากความมันบนใบหน้า เต่งตึง อิ่มเอิบไม่หยาบหรือแห้งกร้าน เคล็ดลับในการทำความสะอาดผิวหน้า ลองเสียเวลาสัก 15 นาทีในตอนเช้าและเย็น




  1. ใช้นมสด ที่ไม่ได้ผ่านความร้อน แตะบนสำลี หมุนวนบนใบหน้า คอ แก้ม 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำเย็น
  2. แตงกวาฝาน นำมาเช็ดวนเป็นวงกลมเบาๆบนใบหน้า 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำเย็น
  3. ฝานมะเขือเทศครึ่งลูก นำมาวนๆบนใบหน้า คอ 15 นาที และล้างออกด้วยน้ำเย็น
  4. มะนาวฝาน นำมาคลึงๆ ค่อนข้างแรง บนหน้า หรือคอ แต่แนะนำให้ทำ 3-4 วันครั้ง
  5. ภายหลังจากที่ล้างหน้าด้วยนม หรือผลเหล่านี้แล้ว ให้ใช้ Oat bran หรือ Besan ผสมน้ำเปียกๆ แล้วล้างพร้อมถูเบาๆ เพื่อขจัดเซลที่ตายออก ห้ามใช้สบู่ ใช้แต่น้ำเย็นที่สะอาด
  6. ใช้แป้งข้าวเจ้า ทำความสะอาด ถ้าหน้ามัน ใช้มะนาวช่วย
  7. ใช้ Buttermilk นวดคลึงบริเวณใบหน้า แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น
  8. ใช้ก้อนน้ำแข็งธรรมดา คลึงและล้างใบหน้า
  9. วางแอปเปิลฝานบางๆ บนใบหน้าคุณ ทิ้งไว้ 15 นาที เพื่อทำให้หน้าเต่ตึงกระชับ แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็นธรรมดา


ที่มา :
womanplus & kapook.com และ บล็อกแก๊งของคุณ Patrizia_pat ค่ะ




read more

วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

สูตรลดอ้วนแบบเบนซ์-พรชิตา

สูตร นี้ใช้บ่อยเวลาที่ต้องการลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน ทำอาทิตย์เดียวลดได้ 5 กิโลกรัม หากทำซ้ำ 2 รอบจะลดได้ถึง 7 กิโลกรัม ควรกินน้ำอย่างน้อย 2 แก้วก่อนกินอาหารทุกมื้อ และทำติดต่อกันไม่เกิน 2 อาทิตย์

วันที่ 1
เช้า โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย
เที่ยง ไข่ต้ม 2 ฟอง
เย็น สลัดผักน้ำใส

วันที่ 2
เช้า น้ำผลไม้คั้น 1 แก้ว
เที่ยง ไข่ต้ม 2 ฟอง
เย็น โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย

วันที่ 3
เช้า โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย
เที่ยง เกาเหลาลูกชิ้น 1 ชาม
เย็น สับปะรด 1 ชิ้น

วันที่ 4
เช้า น้ำผลไม้คั้น 1 แก้ว
เที่ยง ส้มตำ-ไก่ย่าง
เย็น โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย



วันที่ 5
เช้า น้ำผลไม้คั้น 1 แก้ว
เที่ยง สลัดผักน้ำใส + ไก่ย่าง
เย็น สลัดผักน้ำใส


วันที่ 6
เช้า น้ำผลไม้คั้น 1 แก้ว
เที่ยง ปลานึ่งหรือปลาย่าง (ไม่จำกัด)
เย็น นมสดรสจืด 1 แก้ว

วันที่ 7
เช้า ข้าว 1 ทัพพี + ไข่ต้ม 1 ฟอง
เที่ยง เกาเหลาลูกชิ้น 1 ชาม
เย็น สับปะรด 1 ชิ้น


ที่มา : Health&Cuisine และ blog คุณ patrizia_pat



read more

วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

สิ่งควรรู้ก่อน Scrub ผิว

สิ่งควรรู้ก่อน Scrub ผิว

สครับผิวสัปดาห์ละครั้ง

ความถี่ในการสครับผิวที่เหมาะสม คือ 2 สัปดาห์/ครั้ง สำหรับผิวธรรมดาในช่วงเย็นของวัน ส่วนผิวมันสครับได้บ่อยกว่า คือ สัปดาห์ละครั้ง และสำหรับผิวแห้ง สามารถสครับผิวได้ 2 - 3 สัปดาห์/ครั้ง คนเราจะผลัดเซลล์ที่ตายแล้วทุกๆ 28 วัน การสครับออกไปแต่พอดี จึงช่วยเผยผิวใหม่ที่สะอาด น่ามองได้

เลือกเนื้อสครับธรรมชาติ

สครับเนื้อหยาบอาจทำให้ผิวถลอกได้ ทางที่ดีควรเลือกเนื้อบีทเล็กๆ ที่มาจากธรรมชาติอย่าง รำข้าว สารสกัดจากหม่อน เมล็ดมะขาม น้ำตาล เปลือกมะกรูด มะขามป้อม ตะไคร้ ฯลฯ ที่ช่วยขจัดเซลล์ผิวได้อย่างอ่อนโยน และยังช่วยเพิ่มคุณค่าให้ผิวอีกด้วย


เลือกสมุนไพรให้เหมาะกับผิว
เพราะสารสกัดที่ผสมในเนื้อสครับมีความแตกต่างกันไป สมุนไพรบางชนิดดีต่อผิวแห้ง เช่น น้ำผึ้ง แตงกวา ว่านหางจระเข้ ส่วนผิวมันและผิวมีสิวควรเลือกผลไม้รสเปรี้ยว เช่น มะยม มะเฟือง มะกรูด มะขาม เป็นต้น เพื่อให้สมุนไพรได้ดูแลผิวอย่างถูกต้อง


เมื่อใกล้ออกแดด
เมื่อเตรียมจะไปเที่ยวทะเล ควรงดการสครับผิวก่อนออกแดดประมาณ 2 วัน เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวถูกแสงแดดทำลายมากเกินไป และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์การป้องกันแสงแดดทุกๆ 4 ชั่วโมง รวมทั้งการสเปรย์ผิวให้ชุ่มชื่นตลอดการออกแดด


ถ้าจะสครับผิวครั้งหน้า ก็อย่าลืมนึกถึงคำแนะนำกันด้วย

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์




read more

วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ผิวหน้าสวยเด้งด้วยใบเตย !


ใบ เตย เป็นพืชพรรณชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์หลายอย่าง สามารถนำมาประกอบอาหารก็ได้ หรือทำให้ผิวหน้าสวยก็ได้ วันนี้เกร็ดความรู้มีวิธีทำให้ผิวหน้าสวยด้วยใบเตยมาฝากกัน...

ส่วนผสม ได้แก่ ใบเตย 3 ใบ และ น้ำสะอาด (เล็กน้อย)

วิธีทำ คือ นำใบเตยมาล้างน้ำให้สะอาดหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ปั่นรวมกับน้ำสะอาด จนละเอียดรวมเป็นเนื้อเดียวกัน จะได้เนื้อครีมข้นและเหนียว ใช้สำหรับนำมาพอกกับหน้าที่สะอาดแล้วก่อนเข้านอน โดยพอกทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะทำให้รู้สึกผิวหน้าสดชื่นและเต่งตึงขึ้นด้วย ทำอย่างนี้เป็นประจำสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ภายในเวลาไม่ถึงเดือน จะสังเกตเห็นว่า ผิวหน้าดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ว้าวๆๆ ไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะเนี่ย อย่างนี้ต้องลองซะแร้ววว อิๆ



ขอบคุณคุณอิเหนา ณ พันธ์ทิพย์ด้วยจ้า
ที่มา : http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=oxygen1706itd&month=23-06-2009&group=3&gblog=6
read more

วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2552

Skin care D.I.Y. สูตรมหาราณี (1) - ความงามสูตรมหารานี ตำรับความงามจากธรรมชาติ

ความงามสูตรมหารานี ตำรับความงามจากธรรมชาติ
สูตร ดูแลความงามอย่างง่ายๆ ตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้า โดยใช้สมุนไพรจากครัวไม่ว่าจะเป็นมะนาว แตงกวา สะระแหน่ กระวาน กานพลู เมล็ดงา เกลือ น้ำมันมะกอก พริกไทย น้ำตาล น้ำส้มสายชู การบูร และนมเปรี้ยว ในตอนแรกอาจจะดูวุ่นวายแต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่าพึงใจ ทั้งผิวนวลใสแบบประหยัดและยังเหมาะกับยุคอนุรักษ์ธรรมชาติอีกด้วย


ลิปบาล์มน้ำมันมะพร้าว
ส่วนผสม ขี้ผึ้งจากตัวผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันอัลมอนด์ 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ ละลาย ขี้ผึ้งกับน้ำมันมะพร้าวในหม้อที่แช่อยู่ในกระทะน้ำร้อน แล้วจึงใส่น้ำมันอัลมอนด์ลงไป ตีอย่างรวดเร็วให้เข้ากัน ยกหม้อออกจากกระทะน้ำร้อน ตักใส่กระปุกแก้ว ทิ้งไว้ให้เย็น เก็บไว้ทาริมฝีปากให้สวยใส
ครีมกุหลาบสำหรับปกป้องผิวปาก
ส่วนผสม ขี้ผึ้งจากตัวผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันอัลมอนด์ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำกุหลาบ 1 ช้อนชา
วิธีทำ ละลาย ขี้ผึ้งกับน้ำมันมะพร้าวในหม้อที่แช่อยู่ในกระทะน้ำร้อน ยกหม้อออกจากกระทะน้ำร้อน ใส่น้ำกุหลาบและน้ำผึ้งลงไป คนให้เข้ากัน ตักใส่กระปุกแก้ว ทิ้งไว้ให้เย็น เก็บไว้ทาริมฝีปาก หรือจะใช้เพียงน้ำมันมะพร้า หรือน้ำมันมะกอก ทาปกป้องผิวปากจากความแห้งกร้านในหน้าหนาว หรือจะลองผสมน้ำผึ้งกับน้ำกุหลาบแล้วทาริมฝีปากอย่างบางเบาก็ย่อมได้ เพื่อผิวปากอันอ่อนบาง แต่อย่าเผลอเลียหรือกลืนเสียหมดก็แล้วกัน


ตำรับผงขัดฟันให้ขาว
ส่วนผสม ผงอบเชย 2 ช้อนโต๊ะ (หรือชินนามอน) แป้งท้าวยายหม่อมหรือแป้งรากบัว (arrowroot) 4 ช้อนโต๊ะ พริกไทยเล็กน้อย
วิธีทำ ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน เติมน้ำเล็กน้อยให้กลายเป็นแป้งเปียก อาจใช้น้ำคั้นจากใบสระระแหน่ (Mint) ผสมแทนน้ำได้โดยปั่นใบมินต์จำนวนครึ่งถ้วยผสมน้ำเปล่า 1 ช้อน โต๊ะด้วยเครื่องปั่นไฟฟ้าหรือจะตำแล้วคั่นน้ำก็ได้ จากนั้นเหยาะเกลือลงไปเล็กน้อย จะได้สูตรที่เข้มข้นกว่า เพื่อการทำความสะอาดอย่างล้ำลึกเพราะผงเกลือจะช่วยขัดฟันให้ขาวขึ้น ควรทำเพิ่มเติมจากการแปรงฟันตามปกติสัปดาห์ละครั้ง สูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่รู้สึกเสียวฟัน ช่วยให้ฟันแข็งแรงยิ่งขึ้น จะเห็นได้ว่าสมัยโบราณก่อนที่จะมีการใช้ยาสีฟันและแปรงสีฟัน ผู้คนจะใช้เปลือกไม้และกิ่งอ่อนๆ จากสมุนไพรบางชนิดในการทำความสะอาดฟัน โดยการเคี้ยวอมให้สมุนไพรอ่อนตัวลงแล้วกระจายตัวไปทำความสะอาดตามซอกฟัน เพื่อช่วยขจัดคราบ ในแถบเกาะอังกฤษจะใช้กิ่งอ่อนของต้นต่อกระดูก (Elderwood) ในขณะที่อินเดียจะใช้ก้านต้นนีม (Neem) ซึ่งตามตำราอายุรเวทแล้วถือว่าเป็นสมุนไพรที่ช่วยทำความสะอาดและขจัดสารพิษได้อย่างดี (ปัจจุบัน ใช้เป็นส่วนผสมสำคัญในยาสีฟันของอินเดีย) หรือการใช้น้ำมันยูคาลิปตัสทาไปบนเหงือกเพื่อลดอาการปวดฟัน และการใช้สำลีชุบน้ำมันการพลูอุดในรูฟันผุจะช่วยให้หายปวดฟันได้ สำหรับเด็กที่ฟันกำลังจะขึ้น เพื่อบรรเทาอาการปวดใช้น้ำมันกานพลูผสมน้ำผึ้งทาลงไปบนเหงือก จะช่วยบรรเทาอาการปวดหรือเจ็บฟันได้ เป็นต้น
มะนาวสำหรับฟันขาว
ส่วนผสม โซดาไบคาร์บอเนต 1 ช้อนชา เกลือ 1/2 ช้อนชา น้ำมะนาว
วิธีทำ มะนาว จะช่วยให้ฟันขาว ส่วนโซดาไบคาร์บอเนตช่วยขัดฟันอย่างอ่อนโยน ผสมเข้าด้วยกัน ใช้นวดเหงือกและถูฟันด้วยนิ้วมือ หรือจะเทลงบนแปรงแล้วแปรงฟันให้ทั่วตามปกติก็ได้

เยื่อบุช่องปากเป็นแผล

ส่วนผสม น้ำกุหลาบ 2 ช้อนโต๊ะ ผงบริสุทธิ์ไม้จันทน์หอม 1/2 ช้อนชา นมเย็น 1 ถ้วย
วิธีทำ ผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ใช้ดื่มก่อนนอนติดต่อกันอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพระาอาการเยื่อบุช่องปากอับเสบเกิดขึ้นเนื่องจากการขาดวิตามินบี ความเครียดและการไหลเวียนของโลหิตไม่ดี ควรรับประทานอาหารจำพวกถั่ว มันฝรั่ง ธัญพืช และตับ ควบคู่ไปด้วยเพื่อเสริมวิตามินตามธรรมชาติ



กลิ่นปากหอมสดชื่นตำรับโบราณ

ส่วนผสม เหล้าเปปเปอร์มินต์ 5 หยด น้ำกุหลาบ 4 ช้อนชา โยเกิร์ต กระวาน และกานพลู
วิธีทำ กลั้วคอด้วยน้ำกุหลาบละลายในถ้วยน้ำอาจจะหยดเหล้าเปปเปอร์มินต์ลงไปสัก 5 หยด จะช่วยให้หอมสดชื่นมากขึ้น เพื่อแก้ไขกลิ่นปากหลังรับประทานอาหารที่มีกลิ่น หรืออาจเคี้ยวพวกกานพลู ลูกกระวาน เมล็ดยี่หร่า ใบโหระพา ใบสะระแหน่ แอปเปิ้ล แครอต และแตงกวา พืชผลไม้เหล่านี้จะช่วยในการย่อยอาหาร หากการย่อยเป็นไปได้ด้วยดี จะรู้สึกได้ว่าลมหายใจสะอาด ส่วนโยเกิร์ตจะช่วยให้ระบบการย่อยทำหน้าที่อย่างเป็นปกติ เพราะแบคทีเรียและเอนไซม์ในโยเกิร์ตจะช่วยให้ระบบการย่อยทำงานได้อย่างดี เยี่ยม การดื่มน้ำชาจากกระวาน (Cardamon) เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้แก่ลมปากในยาทเช้า หรือจะบดเมล็ดกาแฟกับเมล็ดกระวานเข้าด้วยกันต้มเป็นกาแฟโดยไม่ใส่นมดื่มในยามเช้า

ตาปลา

ส่วนผสม โซดาไบคาร์บอเนต น้ำมันสน กระเทียม มะเขือเทศ สับปะรด
วิธีทำ ถูกระ เทียมหัวใหญ่ไปบนบริเวณที่เป็นตาปลา หากเป็นไปได้ให้แปะชิ้นกระเทียมไว้บนตาปลาแล้วปิดทับด้วยพลาสเตอร์ก่อนเข้า นอน น้ำจากกระเทียมจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ช่วยให้หายเร็วขึ้นหรือจะฝานชิ้นมะเขือเทศหรือสับปะรดแปะไว้ที่ตาปลา กรดจากผลไม้จะช่วยให้ผิวนุ่มนวลขึ้น หรือจะแช่เท้าในน้ำอุ่นผสมโซดาไบคาร์บอเนต เช็ดให้แห้งแล้วใช้ผ้าขาวบางหรือสำลีชุบน้ำมันสนพันไว้ที่ตาปลาทิ้งไว้ข้าม คืน


เอกสารอ้างอิง www.elle.com
ที่มา ศูนย์ข้อมูลเครื่องสำอาง กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
รอบแรกจัดไปเท่านี้ก่อนค่ะ ยังเหลืออีกเกือบ 20 สูตร ทั้งหมดนี่เรายังทำใช้ไม่หมดเลย แต่น่าสนใจทั้งนั้นเลยค่ะเพราะนอกจากจะปลอดภัย 100% ไร้สารเคมีเพราะว่าทำเองแล้ว ยังสามารถเลือกเกรดของส่วนผสมต่างๆ ด้วยเราเอง รวมแล้วราคายังไม่เท่าที่ขายในห้าง แบรนด์ดังๆ เลยค่ะ


read more

วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ทำอย่างไรเมื่อแพ้เครื่องสำอาง ?? - ปัญหายอดฮิตอันดับหนึ่งที่คุณผู้หญิง


ปัญหายอดฮิตอันดับหนึ่งที่คุณผู้หญิงมาพบแพทย์ผิวหนังเห็นจะเป็น การแพ้เครื่องสำอาง

หลายคนจึงเลือกยอมลงทุนซื้อเครื่องสำอางราคาแพง ถึงแพงมากๆ มาใช้ ด้วยคาดหวังว่าจะหลบเลี่ยงการแพ้ไปได้ เพราะมั่นใจว่าอย่างน้อยคุณภาพน่าจะสมราคา แต่เรื่องอย่างนี้มิอาจคาดเดาได้ครับ เพราะผิวของแต่ละคนแตกต่างกัน ซึ่งอาจแพ้สารประกอบไม่เหมือนกันก็ได้ บางคนใช้เครื่องสำอางราคาแพง เกิดอาการแพ้ พอลองใช้ที่ราคาถูกลงอาจจะดีกว่าก็เป็นได้ครับ

ปัญหาจากเครื่องสำอางจริงๆแล้วส่วนมากเป็นการระคาย เคืองมากกว่าการแพ้ แต่การที่แพทย์ผิวหนังจะให้การวินิจฉัยว่าเป็นการระคายเคืองหรือไม่นั้นต้อง อาศัยการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และการทดสอบภูมิแพ้โดยการปิดบนผิวหนัง (Patch test) แล้วดูว่าเป็นการแพ้หรือเปล่าเสียก่อน เพราะเหตุว่าการทดสอบการระคายเคืองทางตรงยังไม่มีครับ
คุณผู้หญิงที่มีปัญหาผิวเพราะเครื่องสำอางจนต้องมาพบ แพทย์ผิวหนัง จากประสบการณ์ผมที่พบเป็นประจำ มีอยู่สองลักษณะ คือ เข้ามาหาหมอพร้อมกับเครื่องสำอาง 1 ชิ้น / กล่อง หรือเป็นตระกร้า(จริงๆ ครับ) แล้วมาบอกว่ามีผื่นแดงขึ้น คัน ที่หน้า หรือตามร่างกาย ที่สำคัญเธอมักจะบอกว่าไม่ทราบว่าเป็นมาจากชิ้นไหนจนต้องมาพึ่งแพทย์ให้ช่วย พิสูจน์ว่าเป็นตัวใดกันแน่



อีกแบบคือมาพร้อมกับผื่นที่หน้าหรือ ร่างกายเป็นเครื่องยืนยัน ซึ่งผมสงสัยว่าจะเกิดจากเครื่องสำอาง แต่ถ้าตอนแรกลองถามว่าใช้เครื่องสำอางหรือเปล่า ก็มักจะตอบว่าเปล่า แต่ถ้าถามว่าใช้ไนท์ครีม เดย์ครีม ครีมกันแดด แป้งรองพื้น ฯลฯ หรือเปล่า เธอก็จะตอบว่า "ใช้ค่ะ ใช้ค่ะ ใช้ค่ะ" จนผมอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมถามตอนแรกถึงบอกว่าไม่ใช้ เธอก็ตอบว่า "ไม่คิดว่ามันเป็นเครื่องสำอาง คิดว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นค่ะ" ผมก็เลยถึงบางอ้อเลยครับ

ผมว่าก่อนอื่นเรามาดูความหมายของ “เครื่องสำอาง” กันดีกว่าครับ ตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอางปี 2535 ให้หมายความไว้ว่า
“วัตถุที่มุ่งหมายสำหรับใช้ทา ถู นวด โรย พ่น หยอด ใส่ อบ หรือกระทำด้วยวิธีอื่นใดต่อส่วนหนึ่งส่วนใดของร่ายกายเพื่อความสะอาดความสวย งาม หรือส่งเสริมให้เกิดความสวยงาม และรวมตลอดทั้งเครื่องประทินผิวต่างๆ ด้วย แต่ไม่รวมถึงเครื่องประดับ และเครื่องแต่งตัวเป็นอุปกรณ์ภายนอกร่างกาย“


คุณจะเห็นว่าความหมายกว้างมากครับตั้งแต่ เครื่องแต่งหน้า ที่ผู้หญิงใช้ไปจนถึง สบู่ ยาสีฟัน แชมพูต่างๆ ด้วย แทบจะพูดได้ว่าทุกคนไม่ว่า เด็ก ผู้ใหญ่ ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และคนชราก็ต้องใช้เครื่องสำอางกันทั้งนั้นครับแท้ที่จริงแล้วปฏิกริยาต่อผิวหนังจากการใช้เครื่องสำอาง พบได้บ่อยพอสมควร แต่ส่วนมากคนที่ใช้แล้วอาจมีปัญหาเพียงเล็กน้อย ก็จะใช้วิธีเปลี่ยนเครื่องสำอาง โดยไม่ได้ไปพบแพทย์ มีการประมาณการณ์กันว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมีอยู่ราว 0.21 % (หรือ 1 ใน 5,000 คน) การเกิดปัญหาอาจเกิดได้เพียงครั้งแรกที่ใช้เครื่องสำอาง หรืออาจใช้เวลาเป็นเดือนหรือเป็นปีแล้วจึงเกิดปัญหาก็ย่อมได้เช่นกัน

ถ้าผิวมีปัญหาจากเครื่องสำอางควรทำอย่างไร
- ถ้าสงสัยว่าเป็นเครื่องสำอางชิ้นใด เช่น เพิ่งซื้อมาใหม่ ก็ให้หยุดใช้ชิ้นนั้นแล้วกลับไปใช้ยี่ห้อเก่าที่เคยใช้แล้วไม่เป็นอะไร เครื่องสำอางยี่ห้อเดียวกันชนิดเดียวกันเมื่อเปลี่ยนขวดใหม่ก็อาจเกิดปัญหา ได้ เพราะผู้ผลิตอาจเปลี่ยนสูตร หรือคุณภาพของส่วนผสมไม่เหมือนเดิม

- ถ้าไม่ทราบว่าเป็นชิ้นใดก็ให้หยุดทุกชนิด แล้วไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อทำการทดสอบภูมิแพ้โดยการปิดบนผิวหนัง (Patch test)และควรนำเครื่องสำอางทุกชนิด พร้อมกล่อง (ถ้ามี) มาด้วย

ถ้าคาดว่าจะแพ้จากเครื่องสำอางที่ใช้ทาผิวหน้า คุณยังอาจใช้ลิปสติก ดินสอเขียนคิ้วได้ถ้าไม่เกิดผื่นบริเวณนั้นๆ หรืออาจเลือกใช้เครื่องสำอางบางชนิด (ที่เคยใช้แล้วไม่มีปัญหา)เช่น แป้งฝุ่น สบู่ หรือครีมบำรุงผิวที่ไม่มีน้ำหอมเป็นส่วนผสมได้



ค้นหาสาเหตุ

การ ที่แพทย์จะบอกได้ว่าคุณแพ้สารอะไรนั้นจำเป็นต้องมีการทดสอบภูมิแพ้โดยการปิด บนผิวหนัง (patch test ) โดยมีขั้นตอนอย่างย่อๆ ดังนี้ครับ
1. แพทย์จะปิดพลาสเตอร์ที่มีสารภูมิแพ้ (allergen) ไว้ที่หลังของผู้ป่วย (สมมติว่าวันจันทร์)

2. แพทย์จะนัดมาแกะพลาสเตอร์ออกพร้อมอ่านผลครั้งที่ 1 (วันพุธ) และอ่านครั้งที่ 2 (วันศุกร์)

3. ในระหว่างการทดสอบผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงภาวะที่มีเหงื่อออกมาก เช่น วิ่ง เล่นกีฬา หรือถูกแสงแดดมากๆ

4. ถ้าคุณกำลังตั้งครรภ์ ก็ไม่ควรทำการทดสอบชนิดนี้

5. ถ้าคุณได้รับยากลุ่มสเตียรอยด์ (ยารับประทานหรือยาฉีด) จะต้องหยุดยาอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์


นอกจากนี้แพทย์ยังอาจให้ทดสอบผลิตภัณฑ์นั้นโดยตรง(ยกเว้น บางอย่างที่จะเกิดการระคายเคืองได้ง่ายเช่นสบู่ )ซึ่งเรียกว่า ROAT (Repeat Open Application Test ) โดยการทาผลิตภัณฑ์นั้นบน ท้องแขน ข้อพับแขน วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ถ้ามีผื่นเกิดขึ้นก็แสดงว่าแพ้จริง (การทดสอบนี้อาจทดสอบกับผลิตภัณฑ์ที่สงสัยเองก็ได้)



สาเหตุสำคัญของการแพ้

สาเหตุที่ทำให้เกิดการแพ้มีหลายชนิด แต่ผมขอพูดถึงเพียงแค่ 2 ตัวที่พบบ่อยคือ
น้ำหอม (fragrance) ใน ปัจจุบันมีมากกว่า 5,000 ชนิด ที่ใช้ในเครื่องสำอางคำว่า "น้ำหอม" นี้ไม่ใช่หมายความถึงแค่ น้ำหอมที่เป็นสเปรย์ฉีดเท่านั้นนะครับ แต่ยังหมายรวมถึงน้ำหอมที่ใส่ลงไปในครีมบำรุงผิว สบู่ แชมพู ต่างๆ ด้วย เพื่อให้ผลิตภัณฑ์นั้นมีกลิ่นหอมน่าใช้ คนที่แพ้น้ำหอมควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็น "Fragrance-Free" หรือ "Without perfume" ไม่ควรใช้ชนิด "Unscented" เพราะยังอาจมีน้ำหอมอยู่เล็กน้อยได้ นอกจากนี้น้ำหอมบางชนิดยังอาจทำให้ผิวเกิดการแพ้ได้เวลาโดนแสงแดดเท่านั้น แต่ถ้าไม่โดนแดดก็ไม่เป็นไร


สารกันบูด (preservatives) เป็น สารที่พบบ่อยอีกตัวหนึ่งที่ทำให้เกิดการแพ้ สารดังกล่าวใส่เพื่อไม่ให้เครื่องสำอางเสีย ซึ่งในความเป็นจริงจึงเป็นไปได้ยากที่เครื่องสำอางจะไม่ใช้สารกันบูด เช่น บริษัทบางแห่งโฆษณาว่า เครื่องสำอางของตนเป็นชนิด Preservative-free แต่เมื่อดูรายละเอียดพบว่าผสม วิตามินอี ซึ่งเขาบอกว่าเป็นสารที่ช่วยบำรุงผิวแต่โดยความจริงแล้ว วิตามินอีก็ทำหน้าที่เป็นสารกันบูดชนิดหนึ่งด้วย (Antioxidant)
ส่วนคำว่า "hypoallergic" หรือ "แพ้น้อย" นั้นปัจจุบันผมถือว่าเป็นภาษาทางการตลาด(Marketing)เพราะแทบจะไม่มีความหมาย อะไรเลย ผลิตภัณฑ์บางอย่างที่เขียนว่าHypoallergic ผมหยิบขึ้นมาดมดูกลิ่นน้ำหอมแรงมาก?!? ดังนั้นคุณๆ ผู้บริโภคในโลกปัจจุบันคงต้องมีความรู้เท่าทันพอสมควรโดยเฉพาะคนไทย เพราะเวลาซื้อเครื่องสำอางแล้วไม่พอใจไม่สามารถเปลี่ยนได้บางชนิดบอกว่า เปลี่ยนได้ แต่กว่าจะยอมก็ซักถามอย่างกับเราเป็นจำเลย เสียทั้งเวลา เสียทั้งอารมณ์ ไม่คุ้มเหนื่อยครับ แต่สมัยที่ผมไปเรียนต่อที่ อเมริกาเราสามารถเปลี่ยนได้เลยโดยคนขายจะไม่ซักถามมากมาย ผมมีคนไข้สิงคโปร์เล่าว่าที่สิงคโปร์ก็เหมือนเมืองไทยที่ยังเปลี่ยนไม่ได้ " We're still Asian "


จะเห็นได้ว่าในปัจจุบัน เครื่องสำอางเป็นส่วนประกอบในชีวิตประจำวันของเราทุกคน โดยเฉลี่ยแล้วผู้ใหญ่ 1 คน จะใช้เครื่องสำอางประมาณ 7 ชนิดต่อวัน ลองนับดูซิครับจะพบว่าส่วนมากเกิน 7 ชนิดโดยเฉพาะคุณผู้หญิง ปัญหาจากการใช้เครื่องสำอางอาจมีเพียงเล็กน้อยจนถึงเป็นอันตรายมากได้ ถ้าปัญหาที่เกิดขึ้นเพียงเล็กน้อย ก็ลองใช้คำแนะนำที่ผมให้ดู แต่ถ้าไม่ดีขึ้นก็ควรไปพบแพทย์ผิวหนังดีกว่าครับ เพราะบางอย่างอาจฝากรอยจารึกไว้บนใบหน้าคุณยากลบเลือน เสียดแทงใจไปนานวันก็ได้…แล้วอย่าลืมหิ้วถุงหรือตระกร้า เครื่องสำอางไปด้วยนะครับ !!


ที่มาข้อมูล : นิตยสาร Health Today



read more

วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2552

8 FOODS THERAPY FOR YOUR HAIR - ชวน สาวๆ มาทำสูตรบำรุงผมสวยจากธรรมชาติ

8 FOODS THERAPY FOR YOUR HAIR...

ชวน สาวๆ มาทำสูตรบำรุงผมสวยจากธรรมชาติ แบบไม่ต้องยุ่งยากมากเรื่อง แค่เข้าครัวหยับโน้นนิดนี่หน่อย แค่นี้ก็ได้สูตรบำรุงผมสวยแล้วจ้าาา

สูตรผมดำเงางาม นำหัวกะทิที่คั้นสดๆ1/2 ถ้วยตวง มาผสมกับน้ำคั้นจากดอกอัญชัน 5 ช้อนโต๊ะ และน้ำมะกรูด 3 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันแล้วนำมาลูกไล้เส้นผมตั้งแต่รากจรดปลาย จะช่วยเพิ่งเงางามให้แกเส้นผมที่ดูแห้งกร้าน นอกจากนี้ยังเป็นสูตที่ช่วยป้องกันปัญหาผมหงอกก่อนวัยได้อีกด้วยนะจ๊ะ รู้แล้วก็อย่าลืมบอกต่อล่ะ เราไม่สงวนลิขสิทธิ์อยู่แล้ว

สูตรผมนุ่มลื่น ใครที่มีปัญหาผมพันกันจนยุ่งเหยิง เชิญฟังทางนี้เลยค่ะ เพราะเรามีสูตรเด็ดเคล็ดลับที่จะทำให้เส้นผมของคุณหวีง่ายและคงความนุ่มลื่น ลองใช้ไข่แดง 2 ฟอง คนให้ไข่แตกตัว (ไม่ต้องตีจนเกิดฟอง) จากนั้นนำเบียร์ 1 ถ้วยตวงมาเทใส่แก้วทิ้งไว้จนปราศจากฟองฟู ผสมทั้งสองส่วนให้เข้ากัน ชโลมเฉพาะบริเวณเส้นผม หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับหนังศรีษะโดยตรงนะคะ เพราะถ้าคุณมีผิวบอบบางจะทำให้แสบได้ค่ะ ทิ้งไว้ 15 นาทแล้วล้างออก จากนั้นสระผมให้สะอาดอีกครั้งจนหมดกลิ่น



สูตรผมมีน้ำหนัก ผล ไม้เมืองหนาวอย่างอะโวคาโดจะมีคุณสมบัติช่วยทำให้เส้นผมของคุณดูมีน้ำหนัก เพิ่มวอลุ่ม แก้ปัญหาผมลีบแบนได้ดี วิธีการก็แสนง่าย ใช้ช้อนตักเนื้ออะโวคาโดประมาน 1/2 ลูก ยีให้เป็นเนื้อเละๆ แล้วผสมกับน้ำมันมะกอกหรือเบบี้ออยล์ 2 ช้อนโต๊ะ ชโลมเส้นผมหลังสระ ทำเป็นประจำทุกสัปดาห์ ไม่ต้องเสียเงินใช้ทรีตเม้นท์ราคาแพงเลยค่ะ


สูตรขจัดผมมัน อากาศร้อนชื้นในบ้านเราเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออก มามากเกินไป สามผมมันจะต้องหมั่นสระผมวันเว้นวัน แต่ถ้าคุณต้องการสระผมทุกวันก็ควรใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนหรือสูตรสำหรับผมมัน โดยเฉพาะ เคล็ดลับที่ช่วยแก้ปัญหานี้ก็คือ บีบมะนาว 1 ลูกลงไปในไข่ขาว 2 ฟอง ตีจนเป็นเนื้อเดียวกัน ชโลมตั้งแต่หนังศรีษะลงไปจนถึงปลายผม ถ้าคุณมีเส้นผมยาวมาก็สามารถเพิ่งปริมาณของส่วนผสมมากขึ้นได้

สูตรผมเรียบตรง สาวผมหยักศกที่อยากให้เส้นผมดูเรียบตรงขึ้น จัดทรงง่ายกว่าเดิม ก็ลองให้หมักผมโดยน้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ ผสมกับมายองเนสอีก 5 ช้อนโต๊ะ และน้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เป็นเนื้อครีมข้นๆ ลูบไล้ให้ทั่วเส้นผม หวีด้วยหวีซี่ห่างๆ ทิ้งไว้ 20 นาทีแล้วล้งออก หรือจะใช้คู่กับหมวกไอน้ำก็จะเวิร์คมากเลยค่ะ

สูตรผมแข็งแรง น้ำมัน มะพร้าวยังคงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณๆที่กำลัวกลุ้มใจกับปัญหาผมอ่อนแอ หลุดล่วงได้ง่าย ชโลมเส้นผมด้วยน้ำมันมะพร้าว ( มีขายเป็นขวดสำเร็จรูปตามร้านสะดวกซื้อ ร้ายขายยา และซูปเปอร์มาเก็ตทั่วไป ) คลุมทับด้วยผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น ทิ้งไว้ 15 นาทแล้วสระผมตามปกติ ทำเป็นประจำผมจะแข็งแรงมากขึ้นค่ะ





สูตรรักษาสีผม ผลไม้ตระกูล ส้มและเบอร์รี่จะสามารถช่วยถนอมสีผม และทำให้เส้นผมของคุณส่องประกายสีสวยเหมือนเพิ่งออกจากร้านทำผมใหม่ๆ ลงมือทำเพื่อความสวยให้แก่สีผม โดนการนำส้มสดๆ 1 ลูกโต แกะเปลือกให้เรียบร้อยนำไปปั่นรวมกับสตอเบอร์รี่ 3-5 ลูก ทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็นจัด

สูตรถนอมลอนผม สาวผมดัดที่ลอนผมเริ่มจะแตกตัว ดูยุ่งเหยิงไม่เป็นทรงสวยเหมือนเก่า ต้องลองทำสูตรนี้ดูค่ะ น้ำข้าวโอ๊ตไปบดให้ละเอียดประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ ผสมกับโยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1/2 ถ้วยตวง นมสดรสจืด 5 ช้อนโต๊ะ หมักผมทิ้งไว้ 15-20 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำเพียงเดือนละ 2-3 ครั้ง จะช่วยยืดอายุของลอนผมได้ค่ะ


ที่มา http://www.womanplus.krubpom.com



read more

วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2552

Pure Calmille Cleansing Milk - ยี่ห้อนี้อ่านว่า "อีฟ โรเชร์" ค่ะ

Pure Calmille Cleansing Milk by Yves Rocher

ยี่ห้อนี้อ่านว่า "อีฟ โรเชร์" ค่ะ แบรนด์ดีแต่ถูกจากฝรั่งเศส เข้ามาขายในเมืองไทยก็ร่วม 20 ปีแล้วมั้งคะ เคยเห็นแม่เราใช้เมื่อตอนเรียนอยู่ ป.6

เข้าเรื่องดีกว่า เจ้านี่เป็นครีมเช็ดเครื่องสำอางค่ะ เป็นหนึ่งในเซ็ต Pure Calmille สามารถเช็ดเครื่องสำอางได้อย่างอ่อนโยน หมดจด และไม่ทำลายผิว ออกได้หมดแม้ครีมกันแดดกันน้ำ/ไม่กันน้ำ ครีมรองพื้น เบส ออกหมดค่ะ เราใช้มาหลายขวดแล้ว หรือสำหรับวันที่อยู่บ้านจริงๆ ทำความสะอาดบ้าน หน้ามันๆ ฝุ่นเยอะๆ โห.. อย่าให้บอกค่ะ ใช้เจ้านี่เช็ดแล้วรู้สึกดีโคตรค่ะ เพราะสำลีดำมากกกก มากยิ่งกว่าวันไปทำงานอีก (แบบว่าที่พักอยู่ใกล้ที่ทำงาน ไม่ต้องเดินทางบนถนนนานค่ะ หน้าเลยไม่โดนฝุ่นเท่าไร)

เราเคยใช้คู่กับ DHC deep cleansing oil ขนาด 70 ml นานหลายเดือนเลยค่ะ แต่ก็ไม่ต่างกับใช้ตัวนี้เดี่ยวๆ นะคะ (ใช้ครีมตัวนี้เช็ดก่อนแล้วตามด้วยการนวด DHC) เพราะยังไงก็ต้องล้างต่อด้วยโฟมหรือเจลล้างหน้าอยู่แล้ว (แล้วแต่ใครจะชอบเจลหรือโฟม)














ปล. เท่าที่แนะนำมา มีแค่ไม่ถึง 5% ที่แพ้เครื่องสำอางยี่ห้อนี้ค่ะ คนที่แพ้จะเป็นคนที่อาจจะใช้ยาหมออยู่ เป็นสิวอักเสบที่ต้องรักษากับหมออะไรประมาณนั้น นอกนั้นก็จะไม่แพ้ และใช้ได้ดีค่ะ เพราะยี่ห้อนี้เขาเน้นธรรมชาติจริงๆ เคมีน้อยค่ะ

คะแนน : 10/10 ถูกใจ ถูกตังค์ ให้แบบไม่ต้องคิดมาก

ขนาด : 200 ml (มีขนาดเดียวค่ะ ไม่มีขนาดทดลอง)
ราคา : 200 บาท (ถ้าไปซื้อตอนโปรโมชั่นถูกๆ ก็จะได้ลดอีก เท่าที่เคยซื้อลดสูงสุด 40% หรือ 50% สำหรับบัตรวันเกิดค่ะ)
------------------------------------------------

Review และความเห็นเห็นของผู้ใช้เครื่องสำอางยี่ห้ออีฟโรเชนี้ค่ะ
ขอบคุณเว็บ jeban และคุณแมวจอมกวนมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
http://www.jeban.com/viewtopic.php?t=11325
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=maewjomkuan&group=8&date=02-04-2007&gblog=1

ปล. ใช้อะไรก็ดีหมดล่ะ แต่ต้องถูกกับผิวผู้ใช้และเงินในกระเป๋าด้วยนะจ้ะ
read more

วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2552

แป้งน้ำศิริราช

ยาทาสิวของโรงพยาบาลศิริราชอันเลื่องชื่อในเว็บพันธุ์ทิพย์ (อีกแล้ว อิๆ) ก็ถึงขนาดว่าถ้าไปซื้อที่โรงพยาบาลต้องจำกัดจำนวนต่อคนด้วยค่ะ เช่น ได้คนละ 5 ขวด ก็ถูกยังกับแจกฟรีและดีขนาดนี้ผลิตไม่ทันก็ไม่แปลกอ่ะค่ะ

ยานี้เป็นยาน้ำ มีตะกอนสีขาวนอนก้นอยู่ ตัวยาประกอบไปด้วย Resorcinol 1%, Salicylic Acid 1%, Zinc Oxide 6.7% มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อสำหรับสิวๆ ทั้งหลาย เช่น สิวอักเสบ สิวหัวช้าง อันเป็นศัตรูตัวร้ายของชายหญิงที่จมไม่ลงเรื่องความสวยความงาม แหม.. ถึงจะจมไม่ลงก็ทำใจไม่ได้นะคะ เพราะสิวจะเป็นตัวการที่จะทำให้เสีย self อย่างแรงค่ะคุณ

แป้งน้ำนี่ขอ Recommend ไว้เลยอ่ะ แบบว่าปลื้มมากมาย เพราะทั้งดีและราคาถูกมาก สำหรับสิวธรรมดาๆ ไม่ใหญ่ ไม่บวมแดงมากมายอะไร คืนเดียวหายค่ะ แต่ถ้ารุนแรงกว่าก็ใช้เวลานานขึ้นอีกนิดหน่อย ถ้าเป็นสิวอักเสบ แดงๆ ปวดๆ ไม่มีหัวตอนแรก แล้วแต่คนค่ะ อย่างเรา 3-4 วันก็ยุบหายแล้ว แต่ถ้าใครเป็นมากๆ ที่มีสาเหตุมาจากฮอร์โมนไม่ปกติเป็นหลักแล้ว อาจใช้เวลาเป็นเดือนค่ะ เพราะยาไม่แรงเท่าที่หมอจะจัดให้ เหมาะกับคนที่เป็นน้อยถึงปานกลาง



บางคนที่ใช้ผงพิเศษ (ตราร่มชูชีพ) อยู่แล้วก็มีคุณสมบัติเหมือนกันนะคะ ซึ่งผงพิเศษจะมีตัวยาที่มีฤทธิ์แก้แพ้ผสมอยู่ ซึ่งบางคนแพ้ตัวยาดังกล่าว ก็สามารถใช้แป้งน้ำแทนได้ค่ะ ยังไงก็แล้วแต่ถ้าใครใช้ผงพิเศษอยู่แล้วก็แนะนำให้ใช้ต่อดีกว่า เพราะใช้ง่ายกว่าแป้งน้ำ ซึ่งเป็นน้ำ ใช้ยากกว่าผง แถมยังหาซื้อยากด้วย (ถ้าจะซื้อเองต้องไปที่โรงพยาบาล ตึกสยามมินทร์ในเวลาราชการค่ะ) แต่ถ้าสั่งซื้อทางเน็ตก็ได้ค่ะ แต่ราคาจะอัพขึ้นเยอะมากกก ก็พอได้สำหรับคนที่ไม่สะดวกจริงๆ หรืออยู่ต่างจังหวัดค่ะ

ส่วนอายุการใช้งาน เพื่อนเราที่เป็นพยาบาล บอกว่ายาทาชนิดนี้ เมื่อเปิดใช้แล้วมีอายุ 6 เดือน กำลังเหมาะสมนะคะ ถ้าไม่ค่อยได้ใช้บ่อยควรเก็บไว้ในตู้เย็น สามารถสังเกตุได้ง่ายๆ สำหรับยาหมดอายุหรือยังคือ เทยาออกมาแล้วยาจะเปลี่ยนจากปกติจะมีสีขาวเหลือง กลายเป็นสีชมพูอ่อนค่ะ นั่นคือต้องทิ้งแล้วนะ

ปล. วิธีใช้คือต้องเขย่าให้ยาเข้ากันให้ดีก่อนนะคะ แล้วค่อยเทมาทาสิวหรือทั้งหน้าก็ได้ ทาได้บ่อยตามต้องการ แต่จะมีคราบขาวๆ ถ้าไม่อายครายยย อิๆ อีกอย่างตอนล้างหน้าต้องล้างให้สะอาดด้วยค่ะ เพราะจะทำให้อุดตันได้

คะแนน 8/10 คะแนน ดีไปหมด ยกเว้นใช้ลำบากเพราะเป็นน้ำ และหาซื้อยาก (ขนาดฝากเพื่อนซื้อยังรอนานมากกก)


ราคา: ขวดละ 25 บาท (ในเว็บขาย 35-70 บาท)
read more

วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2552

Tony Moly Sweety Tint - ทินท์แบบน้ำสีสวย


ทินท์แบบน้ำสีสวยในขวดกระเปาะเล็กๆ น่ารักค่ะ มีสีแดง (เบอร์ 1) กับสีส้ม (เบอร์ 2)
เราใช้สีแดงอยู่ จะบอกว่าไม่แรงเท่ายี่ห้ออื่นเลย สีสวยระหว่างสีแดงกับสีชมพู
เหมือนจะอมส้มนิ๊ดดดดดหน่อยค่ะ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ทาปากแล้วสีจะเข้ากับสีปากค่ะ 
เราว่าสีสวยกว่า tint gel ของ etudy รุ่นยอดนิยมนะ
เกลี่ยง่าย ใช้ได้ทั้งกับแก้มและปาก ทาที่แก้มสีสวยมากค่ะ อมชมพูเป็นธรรมชาติมาก 
(ทาทับด้วยแป้งหลอดองุ่นเวิร์กมากค่ะ อิๆ หน้าเปล่งปลั่งเป็นประกาย) 
แต่สีส้มเคยลองค่ะ เพราะสีสี้ก็ดูดีอยู่แล้ว อิๆ

ข้อเสีย ก็มีนะ คือซึมออกมาตรงฝาอ่ะ เป็นแทบทุกขวดเลย 
ต้องใช้ทิชชูห่อไว้ตลอดเลยค่ะ กันเลอะ ก็พกพาอ่ะเนอะ ดีกว่าไม่มีใช้อ่ะ อิๆ


Sweety Tint by Tony Moly
คะแนน 10/10 สีสวยถูกใจที่สุดในโลก
ราคา : ไม่เกิน 60 บาท



read more

Fruit Air Fit Loose Powder - แป้งหลอดองุ่น มีวิ้ง (ชิมเมอร์)


Fruit Air Fit Loose Powder by Skinfood

แป้งหลอดองุ่น มีวิ้ง (ชิมเมอร์) เล็กน้อย เนื้อแป้งเนียนละเอียด ีสีม่วง เหมาะกับผิวขาวเหลือง ให้หน้าสว่างขึ้น คุมมันระดับหนึ่ง และบำรุงผิวด้วยน้ำมันสกัดจากเมล็ดองุ่น

ใช้แล้วถ้าทาทั้งหน้าจะเห็นชัดว่าหน้าม่วงไปเลยค่ะ เลยใช้ไฮท์ไลท์เฉพาะส่วน เช่น แก้ม (ทาทับตอนสุดท้ายหลังลงแป้งและทินท์หรือบรัชออน จะทำให้แก้มดูเด่นขึ้น น่ามอง) และทาส่วนอื่นเช่นหน้าผาก (ใกล้ๆ คิ้ว) หรือคางด้วยนิดหน่อยก็ดีค่ะ ทาแล้วรู้สึกเปล่งปลั่ง อิๆ

ให้คะแนน 7/10 สีแป้งเข้มเกินไปนิดนุง สำหรับผิวเราง่ะ แล้วยังต้องซื้อตลับแป้งต่างหากด้วย (สะดวกและไม่เปลืองเท่าใช้มือค่ะ)



ราคา : แป้ง < 200 , ตลับแป้ง < 200 บาท


แป้งหลอดมีหลายสูตรค่ะ
  • แป้งข้าว มีชิมเมอร์ สีเนื้อ สำหรับผิวสองสี เพื่อให้หน้าสว่างใส ควบคุมความมัน
  • แป้งแตงโม สีชมพู ไม่มีชิมเมอร์ สำหรับผิวขาว ทำให้ผิวดูอมชมพู มีสุขภาพดีค่ะ และให้ความชุ่มชื่นกับผิวสำหรับคนผิวแห้ง
  • แป้งมะนาว บำรุงผิวให้ชุ่มชื่น หน้าสว่างขึ้น เหมาะกับผิวผสม
  • แป้งอัลมอนด์ สีเนื้อ ควบคุมความมัน เข้ากับผิวได้ทุกสี
read more

วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2552

Grape fresh light pact : แป้งองุ่นของสาวๆ ^^

แป้งองุ่น (แบบตลับนะ) อันเลื่องชื่อของโต๊ะเครื่องแป้งแห่งเว็บพันธุ์ทิพย์เนื้อแป้งมี 3 สี สำหรับผิวขาว (เบอร์ 13) ผิวขาวเหลือง (เบอร์ 21) และผิวสองสี (เบอร์ 23) เนื้อแป้งเนียนละเอียด ไม่ผสมรองพื้น แต่คุมมันได้ดีระดับหนึ่ง (เด๋วเล่าให้ฟัง) มีกลิ่นหอมองุ่นอ่อนๆ แบบเฉพาะตัว พัฟนิ่มสุดๆ ทาแล้วเนื้อบางเบา ไม่หนักหน้าค่ะ

เขาบอกว่าทำให้หน้าเนียน ก็เนียนจริงๆ นะคะ ขอเล่าประสบการณ์ตรงก่อนว่าช่วงที่ฝนยังตกบ่อยๆ อยู่ มีวันนึงไปชอปปิ้งข้างนอก อากาศชื้นมาก ขนาดว่าแต่งหน้าเติมแป้งจากที่ทำงานแล้วก่อนไป ไปถึงแหล่งชอป กลายเ็ป็นยายเพิ้งหน้ามันเหนียวนิดๆ เพราะอากาศชื้น ตายห่านนน.. !! รับไม่ได้ค่ะ จมไม่ลง ต้องรีบคว้าแป้งองุ่นขึ้นมาซับอย่างรวดเร็ว 5 วินาที เสร็จแล้ว หันหน้ากลับมาหาเพื่อนอีกที หน้าผ่องเด้ง ไม่วอก งิงิ อย่างนี้ไม่ให้รักด้ายงาย





















Grape fresh light pact by Skinfood



คะแนน 10/10 เอาไปเลยค่ะ ยกให้ทั้งใจ ฮิๆ

ราคา : 400 นิดๆ

ปล. แป้งเกาหลีเบอร์อ่อนสุดจะขาวมากนะคะ เพราะผิวเขาขาวกว่าเราเยอะผิวขาวเหลืองนิดๆ แบบคนไทยใช้เบอร์ 21 เหมาะที่สุดค่ะ (ใช้อยู่) ส่วนสาวผิวสองสีอาจต้อง test กับสีผิวตัวเองก่อนที่ shop นะคะ เพราะอาจได้สีที่สว่างเกินไปค่ะสำหรับเบอร์ 23กับบางคนค่ะ
read more

The Face Shop : Professional make up base

นอกจากเบสองุ่น และมิชชาแล้ว ยังมีเบสตัวนี้อีกยี่ห้อที่ดีไม่แพ้กัน ราคาก็แสนถูก
ราคาที่เกาหลีตีเิป็นเงินไทยแล้วร้อยกว่าบาท.. OMG !! ถูกเวอร์่มาก
ขนาดว่า pre-order นะคะ ไม่ได้ซื้อเอง ซื้อมาทาเล่นยังคุ้มเลยค่ะ 
(ในไทยราคาเกือบๆ สามร้อยจ้ะ) ปริมาณ 40 ml
มี 2 สี คือ สีเขียว สำหรับผิวสีขาวเหลือง และสีม่วง สำหรับผิวสองสี-คล้ำค่ะ
สามารถปกปิดรูขุมขนที่กว้างไ่ม่มากมายอะไร อย่างเราได้ดี (ดีกว่า missha นะคิดว่า)
และปกปิดรอยแดงของสิว หรือสีผิวไม่เท่ากันได้ดีค่ะ ทำให้หน้าสว่างใสขึ้นมาได้


พอสั่งซื้อมาแล้ว .. อุแม่เจ้า! รูปร่างเหมือนหลอดยาสีฟันอย่างที่เขาว่าจริงๆ 55
ใช้นิดเดียวก็ทั่วหน้าแล้ว ยังงี้คงใช้ได้ทั้งชาติล่ะค่ะคุณ เราใช้สีเขียว เพราะผิวขาวเหลือง
ทาแล้วหน้าผ่อง สว่างขึ้น รู้สึกดีจริงๆ ทาได้แม้วันที่อยู่บ้าน เพราะติดใจมากค่ะ
ปกติเวลาอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ควรทาอะไรเลยนอกจากครีมกันแดด และครีมบำรุงผิว
แต่ตัวนี้ขาดไม่ได้จริงๆ ค่ะ ถ้าวันไหนไม่ได้ทา จะนอยด์อ่ะ เหมือนโดนของ !! 555
ควบคุมความมันได้ดีระดับหนึ่ง


The Face Shop : Professional makeup base


คะแนน 9/10 (หัก 1 คะแนน ทาหนาเกินไปไม่ดี เพราะหน้าจะวอกค่ะ)

ราคา : 100 นิดๆ



read more

Aloe sunscreen essence

Aloe Sunscreen Essence SPF27 PA++ (UV Protection)
by Skinfood

เล็งอยู่นานว่าจะซื้อมาลองใช้ เพราะไม่มีเทสเตอร์ขาย เลยต้องตัดสินใจนานหน่อยแต่ด้วยความที่ Aloe vera Line และคุณสมบัติเฉพาะตัวของว่านหางจรเข้จะทำให้หน้าชุ่มชื่นและไม่มัน และมีกันแดดถึง 27 เท่า ทั้ง UVA และ UVB โดยส่วนตัวทำงานในออฟฟิส เจอแต่รังสีจากคอมพิวเตอร์ และแสงไฟ กับแสงแดดตอนกินข้าวกลางวันแค่นั้น เลยไม่ต้องใช้ SPF สูงอะไรมากมายเพราะเกินความจำเป็น แค่มีกันแดดทั้ง UVA และ UVB ก็โอเคแล้ว

และแล้วชะตาก็ส่งมันมาให้เรา (แต่เสียเงิน) ด้วยความบังเอิญที่สั่งซื้อไปเกิน Order ของเพื่อนๆ เลยต้องเอามาใช้เอง


ผลปรากฎว่า ดีอย่างที่หวังไว้่ค่ะ เพราะซึมเร็ว ไม่เหนอะ (แต่ก็ไม่แห้งและดูเหมือนซึมเร็วอย่าง Biore ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม) เนื้อครีมเป็นสีขาว ไม่ผสม base ไม่ผสมแอลกอฮอล์









ปกติทาครีมกันแดดแล้ว จะทิ้งไว้สักพักเพื่อให้ซึมแล้วค่อยลง make up แต่ตัวนี้ทาทิ้งไว้แล้วไม่ต้องซับความมันส่วนเกินออกว้าวว.. มันช่างดีอะไรอย่างนี้ แถมมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของว่านหางจรเข้ด้วยค่ะ อิๆ

คะแนน 9/10 หัก 1 คะแนน (รอดูผลต่ออีกนิดนึง)

ราคา : ประมาณ 250




read more

วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2552

วิธีฟื้นฟูผิวหน้าแบบเร่งด่วน

เคยไหมคะ ?… ที่ตื่นเช้าขึ้นมาแล้วเจอเข้ากับใบหน้าหมองคล้ำ ไม่ใส่ปิ๊งปั๊ง
ริ้วรอยยับย่นต่าง ๆ ก็ไม่รู้มาจากไหน ดูแล้วชวนให้หดหู่ใจเป็นที่สุด
Amanda Lacey ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหน้าบอกว่าอย่าตกใจไปค่ะ
มีวิธีที่ช่วยให้เช้าอันหม่นหมองของคุณสดใสขึ้นได้อย่างรวดเร็วมาบอกต่อกันด้วย

อย่างแรกเธอแนะว่าให้ดื่มน้ำร้อนที่หยดน้ำมะนาวคั้นสดเหยือกใหญ่นำไปก่อน จากนั้นควรมีการออกกำลังสักเล็กน้อย เพื่อเป็นการเติมออกซิเจนให้กับผิวหน้าเลือกเอาค่ะจะเป็นเดิน วิ่ง โยคะ หรือเต้นไปรอบ ๆ บ้านก็ได้ตามชอบ ตามด้วยการสูดหายใจลึกๆ ช้าๆ อย่างน้อย 6 ครั้ง คราวนี้เดินไปส่องกระจกใหม่อีกครั้งค่ะ คุณจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนทีเดียว


ต่อมาให้ทำความสะอาดผิวหน้าด้วยเคลนเซอร์อย่างดี ล้างออกด้วยผ้าชุบน้ำร้อนบิดหมาดๆ
แล้วตามด้วยผ้าชุบน้ำเย็นอีกครั้งหนึ่งเพื่อกระชับผิว และรอยแดง
แต่ขณะที่เช็ดหน้าด้วยผ้านี้มีเคล็ดลับอีกนิดว่าคุณควรเอนศีรษะไปข้างหลัง (อาจนั่งพิงพนักโซฟาก็ได้ค่ะ) แล้ววางผ้าโปะทิ้งไว้สัก 1–2 นาที เสร็จแล้วให้ทาม้อยส์เจอร์ไรเซอร์ด้วยปลายนิ้ว อย่าถูหน้าแรงๆเด็ดขาดและระหว่างวันก็อย่าลืมดื่มน้ำสะอาดให้ได้อย่างน้อย 1 ลิตรด้วยนะคะ

แล้วหน้าใสปิ๊งก็จะกลับมาหาคุณอย่างรวดเร็วแน่นอนค่ะ…












ที่มา : http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=anotherside&month=01-2009&date=26&group=7&gblog=131
read more

เทคนิคการทาเล็บให้สวยเนียน

สาวๆที่รักสวยรักงามชอบทาเล็บ ดูแลเล็บฟังทางนี้ค่ะ เรามีวิธีที่ทาเล็บให้สวยงามเรียบเนียนมาฝากกันจ้า

1.ก่อนจะทาเล็บควรแช่มือในอ่างน้ำที่บีบมะนาวหรือน้ำส้มไว้ซักเล็กน้อยแช่ทิ้งไว้สักครู่
จะช่วยให้เล็บนิ่ม และมือนุ่มขึ้น

2.การใช้น้ำยาลองพื้นเล็บทาเป็นชั้นแรกก็ถือว่าเป็นการดูแลเล็บที่ดีนะคะ
เพราะเวลาทาเล็บสีเข้มๆ เช่น แดงสด เล็บมักจะเหลืองง่าย ถ้าลองพื้นไว้ จะช่วยบรรเทาได้ค่ะ

3.ขณะที่ทาเล็บ ไม่ควรจะป้ายเกิน 3 ครั้ง เพราะสีจะจับก้อนไม่เรียบเสมอกัน

4.อย่าลงสีเล็บเกิน 2 ชั้นเพราะว่าจะแลดูหนาไปไม่สวยเลยค่ะ


5.ควรทาน้ำยาเคลือบเล็บหลังจากทาสีเสร็จแล้ว
เพราะจะช่วยให้สีเงางามและป้องกันสีจางจากแสงแดดอีกด้วย

6.หากยาทาเล็บของคุณระเหยจนข้นเหนียว ให้หยดทินเนอร์ลงซักเล็กน้อย
เขย่าให้เป็นเนื้อเดียวกัน ก็ใช้ทาต่อได้แล้วค่ะ

7.ควรเก็บยาทาเล็บไว้ในที่เย็น ห่างไกลแสงแดดและปิดฝาให้สนิทกันระเหยหรือจะเก็บในตู้เย็นเลยก็ได้

8.การเลือกยาทาเล็บ ควรดูส่วนผสมด้วย
ยาล้างเล็บที่ดีไม่ควรมีแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นตัวทำให้ผิวเล็บแห้งและหักเปราะง่าย


ที่มา : http://www.yenta4.com
read more

วันอังคารที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2552

สูตรสวยยามหลับ

ใครล่ะ จะปฏิเสธความสวยความหล่อได้ลง แต่ความจริงที่แน่นอนก็คือ ความสวยงามไม่ได้เกิดขึ้นเพียงข้ามวัน แต่เป็นการดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ยิ่งไปกว่านั้น เคล็ดลับกลับอยู่ในธรรมชาติอย่างการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ บวกกับเคล็ดลับสูตรธรรมชาติอีกนิดที่จะทำให้ผิวและผมได้บ่มสวยไปตลอดคืน

ก่อนนอนกับผิวหน้า
การดูแลผิวหน้าก่อนนอนสำคัญไม่น้อย ฉะนั้นแล้วควรให้เวลาสักหน่อยกับขั้นตอนต่างๆ ไม่ว่า การเช็ดล้างเครื่องสำอางให้หมดจด การล้างทำความสะอาด การโทนนิ่ง และการบำรุงด้วยครีมที่เหมาะกับสภาพผิว (และสครับบ้างในเวลาที่เหมาะสม) หากผิวแห้ง ลองเติมความชุ่มชื่นก่อนนอนด้วยเฟเชียล สเปรย์ก่อนลงครีมบำรุง เพื่อให้ผิวได้มีน้ำหล่อเลี้ยงไปทั้งคืน

ก่อนนอนกับริมฝีปาก
ลืมไปหรือเปล่า ว่าริมฝีปากเป็นอวัยวะที่แห้งง่ายยิ่งกว่าผิวหน้าเสียอีก บางคนถึงกับปากลอกทุกครั้งที่ตื่นนอนทีเดียว เพราะฉะนั้นควรบำรุงง่ายๆ ก่อนนอนด้วยการทาลิปบาล์มแบบไม่มีสี ไม่มีกลิ่นทุกครั้ง และให้เวลากับการสครับริมฝีปากสักอาทิตย์ละครั้งด้วยแปรงนุ่มๆ และตามด้วยการบำรุง

ก่อนนอนกับรอบดวงตา
ใช้ครีมบำรุงรอบดวงตาราคาแพงแค่ไหนก็ไม่ได้ดั่งใจเสียที นั่นก็เพราะเคล็ดสำคัญนั้นอยู่ที่การนอนนี่เอง กับการนอนอย่างเพียงพอ และบำรุงอย่างเป็นธรรมชาติด้วยการนำสำลีไปจุ่มน้ำดอกกุหลาบ หรือน้ำแตงกวา แล้วมาโปะผิวรอบดวงตาสัก 10 นาทีก่อนนอนโดยไม่ต้องล้างออกที่ยังทำให้สดชื่นผิวอีกด้วย



ก่อนนอนกับเส้นผม
ลองเปลี่ยนเวลาหมักผมเป็นเวลานอนดีไหม กับการหมักน้ำมันที่ดีต่อเส้นผมอย่างน้ำมันมะกอก น้ำมันอัลมอนด์ หรือน้ำมันมะพร้าวให้ทั่วเส้นผม (เลี่ยงบริเวณหนังศีรษะ) แล้วคลุมด้วยหมวกพลาสติก เมื่อตื่นให้นวดน้ำมันให้ทั่วอีกครั้งพร้อมนวดหนังศีรษะ สระออกแล้วบำรุงตามปกติ จะพบว่าผมนุ่มสลวยกว่าที่เคยจริงๆ

ก่อนนอนกับเท้า
หากเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน การอาบน้ำก่อนนอนคืนนี้ ลองแช่เท้าด้วยน้ำอุ่นเป็นการผ่อนคลายหน่อยเป็นไร ถ้าให้ดีลองเติมเกลือหอมลงไปอีกนิด ขัดเท้าด้วยแปรงนุ่มๆ อีกหน่อย ซับให้แห้งแล้วนวดถูด้วยครีมบำรุงที่ให้กลิ่นผ่อนคลาย ชวนหลับง่ายทั้งจากการนวดและการสูดดมกลิ่นหอมอ่อน

ปฏิบัติตามสูตรสวยแบบศีรษะจรดปลายเท้าได้ตามนี้แล้ว ก็รับรองได้เลยว่าคุณจะได้ทั้งการนอนหลับแสนสบาย และตื่นมาด้วยความสุข (ที่ได้สวย) จริงๆ


ที่มา : http://www.sabai-arom.com/beauty_sleep.html
read more

ประโยชน์ของการขัดผิว

ปกติผิวจะมีการผลัดเซลล์ผิวทุก 2-4 สัปดาห์ แต่เมื่ออายุเกิน 20 ปี การผลัดเซลล์ผิวจะช้าลง ทำให้เกิดปัญหาริ้วรอย และผิวหมองคล้ำ การขัดผิวด้วยฟองน้ำ เกลือขัดผิว แปรง หรือวิธีอื่น ๆ จึงช่วยให้เซลล์ผิวผลัดตัวเร็วขึ้น ทำให้ผิวดูกระจ่างใส

- ผิวแห้ง การขัดผิวที่เสื่อมสภาพออก จะช่วยให้ครีมบำรุงผิวซึมซาบเข้าสู่ชั้นผิว ผิวจึงไม่แห้งตึง

- ผิวผสม ลดปัญหาการเกิดสิว ช่วยให้สีผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอ

- ผิวมัน ช่วยให้รูขุมขนสะอาดขึ้น ลดการอุดตัน และลบเลือนรอยดำจากสิว

- ผิวที่มีริ้วรอย กระตุ้นกระบวนการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติให้ทำงานดีขึ้น ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอย และความหมองคล้ำ ผิวจึงดูสดใสและอ่อนวัยขึ้น

- ผิวที่ไม่เรียบเนียน ช่วยลบเลือนจุดด่างดำและริ้วรอยที่เกิดจากสิว

- ผิวแตกลาย / ผิวเปลือกส้ม การขัดผิวด้วยฟองน้ำนุ่ม ๆ หรือใยบวบธรรมชาติที่แช่น้ำจนนิ่ม ในบริเวณที่ผิวแตกลาย เป็นคลื่น เป็นลอน ทุกวัน จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต และลบเลือนริ้วรอยให้จางลงได้



การขัดผิวหน้าควร ทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง และขัดผิวกายเดือนละ 1-2 ครั้ง โดยวนมือเป็นวงกลมเบา ๆ หลังขัดผิวควรหามอยส์เจอไรเซอร์มาเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

รู้อย่างนี้แล้ว สาวคนไหนอยากมีผิวสวย อย่าลืมหันมาขัดผิวกันดีกว่า.


ที่มา: http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=73924&NewsType=2&Template=1
read more

5 เรื่องความงามที่ผู้หญิงพลาดบ่อย

จริงๆ แล้วทุกอย่างก็พลาดกันได้ แต่เรื่่องความสวยงามนี่อย่าเผลอพลาดบ่อยไปเชียว เดี๋ยวจะถูกเหมาว่าไม่ดูแลตัวเอง

1. ไม่ใช้ครีมบำรุง ไม่เอาครีมกันแดด
พลาดไปถนัดทีเดียว ที่ปฏิเสธครีมบำรุงและครีมกันแดด เพราะนี่ล่ะคือการป้องกันและดูแลผิวหน้าในระยะยาวที่ดีที่สุด แม้ว่าครีมที่เราเลือกใช้จะไม่ได้ผสมสารสกัดราคาแพงก็ตาม แต่การเติมน้ำให้ผิวและตามด้วยการป้องกันแสงแดดในทุกๆ ครั้งที่ออกจากบ้าน จะช่วยยืดอายุผิวได้นาน และยังป้องกันริ้วรอย ฝ้า กระได้ดีไม่น้อย

2. เกาะตามกระแส
เดี๋ยวนี้กระแสช่างพาไปจริงๆ จนสาวๆ อดซื้อตามคำบอกเล่าไม่ได้ แต่ในที่สุดก็พบว่าเป็นผลิตภัณฑ์ความงามที่ไม่เหมาะกับเราเสียเลย อย่างเมกอัพที่สีไม่เข้ากับผิว โลชั่นที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว หรือสินค้าราคาแพงเิกินจริงแต่สามารถหาของดีใกล้เคียงได้ตั้งมากมาย




3. ไม่ดูอายุผลิตภัณฑ์
บางทีอาจเกิดจากความเสียดาย ความละเลีย หรือการไม่รู้ แต่สำคัญทีเดียวที่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ความงามตามอายุของมัน สังเกตได้ง่ายๆ จากฉลากข้างขวดที่บอกว่าใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพภายในกี่เดือน กี่ปี

4. ชอบแต่ไม่ได้ใช้
เผลอซื้อเพราะ packaging กันบ้างหรือเปล่า บางครั้งก็ใช้ใจพาไปจนซื้อมาสะสมกันไว้จนใช้แทบไม่ทัน สุดท้ายก็ต้องตัดใจทิ้งไปเพราะของหมดอายุเสียนี่ เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า คราวหน้าลองจด beauty list ที่ต้องการจริงๆ ทุกครั้ง จะได้ไม่เผลอพลาดจนอดเสียดายเงินทีหลัง

5. ลืมนึกถึงผลกระทบอื่นๆ
ข้อนี้สำคัญทีเดียว เพราะจะเป็นการดีอย่างยิ่งที่เราจะคิดหน้าคิดหลังก่อนจับจ่าย เช่นผลิตภัณฑ์ที่ดูดี น่าใช้ แต่กลับบรรจุใน Packaging ที่ชวนทำลายสิ่งแวดล้อม ไม่สามารถรีไซเคิลได้ บ้างก็ใส่สารเคมีมากเกินความจำเป็น บ้างก็ใช้วัสดุที่ฟุ่มเฟือย (แถมราคาที่แพงก็เพราะค่า packaging เหล่านี้นี่เอง)
read more

วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2552

For Dachshund Lovers

ประเดิม pattern แรกที่ Dachshund มีแหล่งกำเนิดทีเ่ยอรมันนี หรือหมาไส้กรอก (sausage dog) เพราะ
ด้วยลักษณะที่มีลำตัวยาวเหมือนไ้ส้กรอกและขาสั้น ตอนวิ่งจะต๊อกแต๊กๆ เหมือนไส้กรอกวิ่งได้จริงๆ มีหลายสี มีทั้งขนยาวและขนเกรียน ชอบไล่หนูมาก นิสัยซื่อสัตว์ เลี้ยงไว้เฝ้าบ้านได้ แต่ไม่ดุ


Enjoy making นะคะ











read more

วันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

Introduction!

สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อน

เป็นคนต่างจังหวัด แต่ทำงานในเมืองหลวง เดินตลาดเป็นอาีชีพหลัก (อ๊ะๆๆ ไม่ใช่คนเก็บเงินค่าแผงนะจ้ะ อิๆ) มีงานเสริมคือเป็นแม่ค้าและเป็นคุณครูสอนตุ๊กตาและงานโครเชต์อื่นๆ รักสัตว์เหมือนคนส่วนใหญ่ (ที่บ้านเมีหมา 2 ตัว คือ ปั๊กกับมิเนเจอร์ แมว 3 ตัว) ชอบทำงานฝีมือทุกชนิด ชอบทดลองของใหม่ โดยเฉพาะเครื่องสำอาง (ไม่เคยแพ้สารใดๆ ในโลก เลยชอบลอง)


เป็นคนหนึ่งที่สนใจและมีความถนัดในด้านการทำงานฝีมือ ด้วยความคุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมที่มีการทำงานฝีมือมาั้ตั้งแต่เด็ก ทั้งเย็บ ปัก ถัก และร้อย เคยทำมาแล้วทุกอย่างและแต่ละอย่างสามารถทำได้ดีในระดับที่ไม่เท่ากัน ที่ถนัดที่สุดคือ "ถัก" การถักสามารถแตกสาขาออกไปได้หลายแบบมากค่ะ เช่น โครเชต์ นิตติ้ง เมคราเม่ แทตติ้ง เป็นต้น การถักรูปแบบต่างๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นทักษะของต่างประเทศค่ะ มีทั้งที่ต้องใ้ช้เครื่องมือช่วยและใช้มือเปล่า ซึ่งคนไทยรู้จักและนิยมกันมาหลายสิบปีแล้ว

ด้วยความที่เป็นผู้หญิง ก็ไม่พ้นเรื่องความสวยความงามล่ะค่ะ ดิฉันมีเคล็ดลับมากมายที่สั่งสมมานานปีเพื่อประทินผิวของหญิงสาวเพื่อให้คงอยู่นานเท่านานเท่าที่จะสามารถทำได้ เพื่อให้ร่วงโรยตามกาลเวลาไปช้าที่สุด


เอาล่ะค่ะ.. บล็อกต่อไปดิฉันจะมาเล่าเรื่องอะไร หรือแนะนำเคล็ดลับใด โปรดติดตามกันต่อไปนะคะ ^^

It's up the light sunny day

read more